การปฏิวัติมนุษย์

การปฏิวัติมนุษย์คืออะไร? มีความสำคัญอย่างไร?

นคำนำของอาจารย์อิเคดะ ประธานเอสจีไอ ผู้ประพันธ์นวนิยายเรื่อง “การปฏิวัติมนุษย์” นั้น มีข้อความที่มีชื่อเสียงท่อนหนึ่งคือ “การปฏิวัติมนุษย์ที่ยิ่งใหญ่ในชีวิตของบุคคลคนหนึ่งสามารถเปลี่ยนแปลงชะตากรรมของประเทศ และชะตากรรมของมนุษยชาติได้”

การปฏิวัติมนุษย์ซึ่งเป็นการเปลี่ยนสภาพ หรือการปฏิวัติมนุษย์ของเราในระดับพื้นฐานนั้น คือกุญแจสำคัญในการเปลี่ยนแปลงทุกสิ่งทุกอย่างที่เกิดขึ้นในชีวิต

การปฏิวัติมนุษย์ไม่ใช่สิ่งที่พิเศษกว่าปกติ หรือแยกออกจากชีวิตประจำวันของเราเลย ผมขอยกตัวอย่างที่คุ้นเคยกัน เช่น มีเด็กชายคนหนึ่งใช้เวลาทั้งหมดของเขาไปกับการเล่น และไม่เคยใช้เพื่อการศึกษา แต่แล้ววันหนึ่งเขาตัดสินใจใช้ความพยายามที่จะปรับปรุงโอกาสแห่งอนาคตในชีวิตของเขา และก็เริ่มต้นศึกษาเล่าเรียนอย่างจริงจัง นี่แหละคือการปฏิวัติมนุษย์ของเขา

หรืออาจจะมีผู้หญิงคนหนึ่งที่แสวงหาแต่ความสุข สำหรับครอบครัวของเธอเองเพียงแค่ผิวเผิน เธอพอใจใช้ชีวิตของเธอ จนกระทั่งวันหนึ่งเธอเกิดคิดขึ้นมาได้ว่า “อะไรจะเกิดขึ้น หากความสุขในปัจจุบันหมดไป ฉันควรที่จะแสวงหาความสุขที่มั่นคงและยืนยาวกว่านี้จะดีกว่า” ดังนั้นเธอจึงเริ่มต้นปฏิบัติพุทธธรรมของพระนิชิเร็นไดโชนิน และดำเนินชีวิตบนพื้นฐานปรัชญาชีวิตนี้ เริ่มต้นทำงานเพื่อความสุขที่แท้จริงของครอบครัวเธอ นั่นคือการปฏิวัติมนุษย์ของเธอ

หรือมีคุณพ่อคนหนึ่งที่คิดถึงแต่โลกใบเล็ก ๆ ของตนเอง คือแค่ตัวเขาเอง ครอบครัวของเขา และเพื่อนของเขา แล้ววันหนึ่งเขาก็ตัดสินใจทำลายคุกอันคับแคบนี้ ยื่นมือแห่งการช่วยเหลือออกไปยังผู้ที่เจ็บป่วยหรือมีความทุกข์ ใช้ความคิดอย่างจริงจังว่าจะช่วยให้พวกเขาพบกับความสุขในชีวิตอย่างไร แล้วเขาก็เริ่มต้นร่วมกิจกรรมต่าง ๆ ที่อุทิศตนเพื่อจุดมุ่งหมายดังกล่าว นี่ก็คือการปฏิวัติมนุษย์ของเขา

หรือกล่าวอีกนัยหนึ่ง การปฏิวัติมนุษย์นั้นหมายถึงการยกระดับการมองของบุคคลให้ข้ามพ้นของเขตที่จำกัดของการดำเนินชีวิตในแต่ละวันของตน แล้วลงมือต่อสู้และอุทิศตนเองเพื่อความสำเร็จในเป้าหมายที่ยิ่งใหญ่กว่า ลึกซึ้งกว่าและกว้างขวางกว่า ซึ่งนั่นก็หมายถึงการต่อสู้ที่แม้จะเพียงแค่เรื่องเล็กน้อย แต่เพื่อให้เป็นบุคคลที่เข้มแข็งขึ้นได้นั้น จิตใจแห่ง “แม้เพียงแค่อีกนิด” นั้นเป็นสิ่งสำคัญมาก คุณจะก้าวไปข้างหน้าหนึ่งก้าวหรือว่าคุณจะหยุดอยู่กับที่ที่คุณอยู่ในตอนนี้ ทุกสิ่งทุกอย่างในชีวิตของคุณขึ้นอยู่กับการตัดสินใจนั่นเอง

บางคนอาจรู้สึกว่าการท้าทายต่อการปฏิวัติมนุษย์นั้น เป็นเรื่องเกินกำลังของพวกเขา และเชื่อว่าชีวิตของเขาไม่มีทางที่จะเปลี่ยนแปลงได้ พวกเขาบอกว่าเขาเป็นคนอ่อนแอ ไม่เคยทำตามความตั้งใจได้สำเร็จเลยสักครั้ง ซึ่งนั่นก็ไม่ใช่เรื่องผิดปกติแต่อย่างใด ถ้าหากว่าเราทุกคนมีความสมบูรณ์พร้อมตั้งแต่ต้นแล้ว เราก็ไม่จำเป็นต้องทำการพัฒนาชีวิต ซึ่งในความเป็นจริงแล้ว บุคคลที่ในตอนเริ่มต้นถูกผูกมัดอยู่กับสภาพแวดล้อมของตนเอง หรือพ่ายแพ้ความอ่อนแอของตนเองอยู่เสมอ และภายหลังสามารถเปลี่ยนแปลงสภาพชีวิตของตนเองได้อย่างงดงาม อันเนื่องมาจากการปฏิบัติพุทธธรรมอย่างเข้มแข็งนั้น ก็คือบุคคลที่สร้างความประทับใจให้กับผู้อื่นได้อย่างน่าอัศจรรย์นั่นเอง

ในช่วงเวลาที่เราต้องพบกับความทุกข์ที่หนักหนาสาหัสที่สุด หรืออุปสรรคที่ไม่สามารถเอาชนะได้ และอยู่ในภาวะที่ต้องเผชิญหน้ากับทางตันนั้น ก็คือโอกาสที่งดงามที่สุดที่จะทำการปฏิวัติมนุษย์ของเรา

ถ้าคุณเป็นบุคคลประเภทที่ความตั้งใจหมดไปได้ง่าย ๆ หรือถ้าคุณพบว่า ตนเองทำตามเป้าหมายที่ตั้งไว้ได้ยากแล้วละก็ ขอให้คุณหมั่นตั้งใจใหม่อยู่เสมอ ในทุก ๆ ครั้งที่คุณพบว่าตนเองได้ลื่นล้มไป หากคุณยังคงต่อสู้ต่อไปอย่างกล้าหาญ ผลักดันไปข้างหน้าแทนที่จะถอยหลังและหมดความหวัง โดยคิดอยู่เสมอว่า “คราวนี้ฉันจะทำให้สำเร็จ! ฉันจะทำให้ได้!” แล้วละก็ คุณก็จะประสบความสำเร็จในการปฏิวัติมนุษย์ของคุณเองได้อย่างแน่นอน

ชีวิตนั้นเป็นเรื่องที่ซับซ้อน เราถูกกำหนดด้วยปัจจัยต่าง ๆ มากมาย เช่น บุคลิกภาพของเรา อุปนิสัยของเรา ชะตากรรมของเรา ภูมิหลังของครอบครัวเรา เป็นต้น และเป็นเรื่องยากที่ปลดปล่อยตนเองให้เป็นอิสระจากปัจจัยหรืออิทธิพลเหล่านี้ซึ่งเชื่อมโยงกันได้อย่างลึกซึ้ง

ชีวิตนั้นจะเปล่งประกายแสงเพียงชั่วขณะ หลายคนใช้ชีวิตแต่ละวันวุ่นวายกับธุระมากมาย ดูดซับแต่ความกลุ้มอกกลุ้มใจเล็ก ๆ น้อย ๆ ที่ไม่สำคัญและเกี่ยวข้องแต่เรื่องที่ตื้นเขิน หลายคนไม่เคยไปได้สูงกว่าสภาวะชีวิต 6 โลกแรกเลย ซึ่งก็คือโลกนรก เปรต เดรัจฉาน อสุระ มนุษย์ และเทวะ

อย่างไรก็ตาม เมื่อเราตัดสินใจที่จะตีแตกสภาพชีวิตที่ต่ำเหล่านั้น และจะเข้าถึงสภาวะของโพธิสัตว์และโลกพุทธ โดยแสดงความเมตตากรุณาอันยิ่งใหญ่ในพฤติกรรมและการดำเนินชีวิตแต่ละวัน นั่นก็คือเรากำลัง “กระทำ” การปฏิวัติมนุษย์ของเราอยู่

เมื่อความเมตตากรุณาดังกล่าวแผ่ขยายจากระดับบุคคลไปสู่ระดับครอบครัว ระดับชาติ และระดับโลกแล้ว การพัฒนาเพื่อสันติภาพโดยไม่ใช้ความรุนแรงแบบที่ไม่เคยมีมาก่อน ก็จะบังเกิดขึ้น

มีการปฏิวัติหลายประเภท เช่น การปฏิวัติทางด้านการเมือง เศรษฐกิจ อุตสาหกรรม วิทยาศาสตร์ ศิลปะ การติดต่อสื่อสาร และอื่น ๆ มากมาย แต่ละอย่างมีความสำคัญและมีความจำเป็นในตัวของมันเอง แต่ไม่ว่าอะไรจะเปลี่ยนแปลงก็ตาม โลกของเราก็ยังไม่ดีขึ้น ตราบใดที่ประชาชนซึ่งเป็นพลังที่นำทางและกระตุ้นอยู่เบื้องหลังความเพียรพยายามทั้งปวงนั้น ยังคงเห็นแก่ตัวและขาดความเมตตากรุณา ด้วยเหตุนี้เองการปฏิวัติมนุษย์จึงเป็นพื้นฐานของการพัฒนาทั้งมวล ในเวลาเดียวกันก็เป็นการปฏิวัติที่จำเป็นที่สุดสำหรับมนุษยชาติด้วย

มีคนน้อยมากที่สามารถปฏิวัติมนุษย์ของเขาได้จากการใช้เครื่องประเทืองปัญญา เช่น โดยการอ่านหนังสือเกี่ยวกับหลักศีลธรรมและจริยธรรม การปฏิวัติมนุษย์นั้นไม่สามารถทำได้ง่าย ๆ ด้วยการอ่านหนังสือเพียงอย่างเดียว หรือสามารถเปลี่ยนชะตากรรมของเราได้ด้วยพลังของตัวหนังสือเพียงอย่างเดียว

เอสจีไอไม่ได้มีจุดมุ่งหมาย อยู่ที่การให้ความรู้ทางทฤษฏีแต่เป็นการปฏิวัติมนุษย์อย่างสมบูรณ์และเป็นจริง ซึ่งก็คือการปฏิวัติมนุษย์ที่ประชาชนสามารถเปลี่ยนท่าทีขั้นพื้นฐาน วิธีการคิดและจิตใจของพวกเขา การกระทำของพวกเขาและการดำเนินชีวิตของพวกเขา มุ่งไปสู่เส้นทางที่ดีที่สุดได้

การปฏิวัติมนุษย์เช่นนี้ จะเกิดขึ้นก็ต่อเมื่อชีวิตของเราอยู่ในสภาวะพุทธ เมื่อเราหลอมชีวิตของเราเข้ากับชีวิตของโพธิญาณของพระพุทธแล้ว เราก็จะสามารถดึงเอาพลังที่อยู่ภายในออกมาและเปลี่ยนแปลงตัวเราในขั้นพื้นฐานได้ ดังนั้นพุทธภาวะก็คือพลังที่ซ่อนอยู่ในส่วนลึกของชีวิตเรา ซึ่งจะทำให้การเปลี่ยนแปลงสภาพของตัวเราเป็นไปได้

มนุษย์เรามีความสามารถพิเศษที่จะมีความหวัง เพื่อการปรับปรุงตนเองและการเจริญเติบโตของตนเอง เราสามารถคิดถึงการเปลี่ยนแปลงทิศทางชีวิตของเราได้ แทนที่จะปล่อยให้เป็นไปตามยถากรรม เมื่อคนเราพูดถึงความต้องการที่จะประสบความสำเร็จ เขามักจะหมายถึงการได้รับตำแหน่งฐานะทางสังคม แต่การปรับปรุงของเรานั้นเป็นความหวังที่ลึกซึ้งกว่า เพราะเป็นการเปลี่ยนแปลงและยกระดับสภาพชีวิตของเราจากภายใน ฉะนั้น การเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นนั้น จึงเป็นสิ่งที่ยั่งยืนถาวร มีคุณค่าและสูงส่งยิ่งกว่าตำแหน่งฐานะทางสังคม

มนุษย์ก็คือมนุษย์ ไม่มีใครเป็นยอดมนุษย์ ด้วยเหตุผลดังกล่าว สิ่งที่สำคัญที่สุดก็คือ ขอให้เป็นมนุษย์ที่ดีที่สุดเท่าที่เราจะสามารถเป็นได้ ไม่ว่าคุณจะประดับประดาตัวคุณเองด้วยกับดักของชื่อเสียง ตำแหน่ง วุฒิการศึกษา ความรู้ หรือความมั่งคั่งร่ำรวยสักเพียงใด หากจิตใจของคุณขาดแคลนและล้มละลายแล้ว ชีวิตของคุณก็มีแต่ความแห้งแล้งและว่างเปล่า คุณจะกลายเป็นคนอย่างไรเล่า หากสิ่งปรุงแต่งจากภายนอกเหล่านั้นหายไป และคุณยืนอยู่โดยปราศจากสิ่งประดับประดา การปฏิวัติมนุษย์นั้นเป็นการท้าทายในการเปลี่ยนแปลงชีวิตของเราอย่างถึงแก่น

พระศากยมุนีพุทธทรงประสูติมาเป็นเจ้าชาย แต่พระองค์ก็ละทิ้งทุกอย่าง ปลดเปลื้องพันธนาการทางโลกทั้งมวล และอุทิศตัวของพระองค์เองเพื่อการบำเพ็ญเพียรพุทธมรรค เพื่อค้นหาสัจธรรม พระองค์ได้ทำการปฏิวัติมนุษย์ของพระองค์เอง ส่วนพระนิชิเร็นไดโชนิน ผู้ซึ่งไม่มีความมั่งคั่งและตำแหน่งฐานะใด ๆ ผู้ซึ่งประกาศด้วยความภาคภูมิใจถึงชาติกำเนิดของตนเองว่า เป็นชนชั้นจัณฑาล ชนชั้นต่ำที่สุดในสมัยนั้น ก็ได้อุทิศตนเองให้กับพุทธธรรม โดยไม่เห็นแก่ตัวเองเลยเช่นกัน

วารสารสู่ความสุข