พระนิชิเร็นไดโชนิน
พ
ระนิชิเร็นไดโชนินเกิดเมื่อวันที่ 16 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 1222 ในชุมชนเล็ก ๆ ใกล้ชายฝั่งคาตาอุมิ ที่หมู่บ้านโทโจ เมืองนางาสะ จังหวัดอาวะ ประเทศญี่ปุ่น ท่านเป็นบุตรของสามัญชน ครอบครัวของท่านดำรงชีวิตด้วยการจับปลา
เมื่ออายุ 12 ปี พระนิชิเร็นไดโชนินเริ่มศึกษาที่วัดใกล้บ้านแห่งหนึ่ง ชื่อวัดเซโชจิ ซึ่งเป็นวัดของนิกายเทียนไท้ ระหว่างนี้ท่านได้ตั้งปณิธานที่จะเป็นผู้มีปัญญาอันดับ 1 ในประเทศญี่ปุ่น
เมื่ออายุ 16 ปี ท่านได้ออกบวชที่วัดเซโชจิ หลังจากนั้นท่านได้เดินทางไปยังเมืองคามาคูระ เกียวโต นาระ และเมืองอื่น ๆ เพื่อศึกษาพระสูตรและอรรถกถาทั้งหลายที่เก็บรักษาไว้ในวัดสำคัญต่าง ๆ อย่างถี่ถ้วน ท่านยืนยันว่าสัทธรรมปุณฑริกสูตรคือคำสอนที่สูงสุดในบรรดาพระสูตรทั้งหมดของพุทธศาสนา และยืนยันว่าธรรมะแห่งนัมเมียวโฮเร็งเงเคียวที่ท่านรู้แจ้ง คือ หัวใจของสัทธรรมปุณฑริกสูตรและเป็นธรรมะที่จะช่วยให้ประชาชนทั้งหลายหลุดพ้นจากความทุกข์ขั้นรากฐานที่สุด
An artist’s rendition of Nichiren [© Seikyo Shimbun]
จากการศึกษาค้นคว้าที่ศูนย์กลางพุทธศาสนาชั้นนำต่าง ๆ ทำให้พระนิชิเร็นไดโชนินมั่นใจถึงภาระหน้าที่ของท่านในการเผยแผ่ธรรมมหัศจรรย์หรือนัมเมียวโฮเร็งเงเคียว ท่านจึงเริ่มต้นการรณรงค์ต่อสู้โดยตระหนักว่าจะต้องเผชิญกับการต่อต้านและการบีฑาครั้งใหญ่อย่างไม่อาจหลีกเลี่ยงได้
วันที่ 28 เมษายน ค.ศ. 1253 ราวเที่ยงวัน ณ วัดเซโชจิ ท่านประกาศว่านัมเมียวโฮเร็งเงเคียวเป็นคำสอนที่ถูกต้องของพุทธศาสนา เพียงคำสอนเดียว ที่นำพาประชาชนทั้งหลายในสมัยธรรมปลายไปสู่การรู้แจ้ง ขณะที่ท่านมีอายุ 32 ปี และได้เปลี่ยนชื่อเป็น “นิชิเร็น”
ในช่วงที่พระนิชิเร็นไดโชนินเริ่มเผยแผ่คำสอนของท่านที่เมืองคามาคูระ ประเทศญี่ปุ่นกำลังประสบภัยพิบัติทางธรรมชาติต่าง ๆ อย่างเช่น สภาพอากาศแปรปรวนอย่างหนัก แผ่นดินไหวรุนแรง ทุพภิกขภัย อัคคีภัย และโรคระบาด ด้วยเหตุนี้ เมื่อวันที่ 16 กรกฎาคม ค.ศ. 1260 พระนิชิเร็นไดโชนินจึงได้ยื่น “บทนิพนธ์เรื่องการก่อตั้งคำสอนที่ถูกต้องเพื่อให้ประเทศเกิดสันติ” (ธรรมนิพนธ์ฉบับภาษาไทย เล่ม 1 หน้า 53-112) ให้แก่ท่านโฮโจ โทขิโยริ ผู้สำเร็จราชการของรัฐบาลทหารคามาคูระ เพื่อชี้ให้เห็นถึงสาเหตุรากฐานของความทุกข์ของประชาชน และเปิดเผยวิธีที่จะช่วยให้พวกเขาสามารถขจัดความทุกข์ที่เกิดขึ้น
ทว่า ผู้ปกครองประเทศในเวลานั้นไม่ได้ใส่ใจคำตักเตือนที่จริงใจของพระนิชิเร็นไดโชนิน กลับให้การสนับสนุนผู้ศรัทธานิกายสุขาวดี ทำให้พวกเขาเริ่มวางแผนบีฑาพระนิชิเร็นไดโชนิน โดยมีเหตุการณ์ครั้งสำคัญดังนี้
วันที่ 27 สิงหาคม ค.ศ. 1260 เกิดเหตุการณ์บีฑาธรรมที่มะจึบางายะจึ
วันที่ 12 พฤษภาคม ค.ศ. 1261 พระนิชิเร็นไดโชนินถูกเนรเทศไปที่แหลมอิสึ
วันที่ 11 พฤศจิกายน ค.ศ. 1264 เกิดเหตุการณ์บีฑาธรรมที่โคมะจึบะระ
วันที่ 12 กันยายน ค.ศ. 1271 เกิดเหตุการณ์บีฑาธรรมที่ทะจึโนะคุจิ ซึ่งเป็นความพยายามที่จะประหารชีวิตของพระนิชิเร็นไดโชนินด้วยการตัดศีรษะ แต่ความพยายามดังกล่าวไม่เป็นผลสำเร็จ เนื่องจากเกิดวัตถุเรืองแสงสว่างจ้าฉับพลันพุ่งผ่านท้องฟ้าในเวลานั้น บรรดาทหารซามูไรจึงตื่นตระหนกและล้มเลิกความพยายามไป ซึ่งเหตุการณ์ดังกล่าวนี้ มีความหมายสำคัญอย่างยิ่งต่อพระนิชิเร็นไดโชนิน กล่าวคือ เป็นการละทิ้งสภาพชั่วคราวที่เป็นมนุษย์ปุถุชน และปรากฏตัวตนที่แท้จริงที่มีมาตั้งแต่ดั้งเดิมของพระพุทธะซึ่งมีพร้อมปัญญาและความเมตตากรุณาอันไร้ขีดจำกัด หลังจากนั้นหนึ่งเดือน เมื่อวันที่ 10 ตุลาคม ค.ศ. 1271 พระนิชิเร็นไดโชนินจึงถูกเนรเทศไปที่เกาะซาโดะ
เดือนกุมภาพันธ์ ค.ศ. 1274 พระนิชิเร็นไดโชนินได้รับอภัยโทษและออกจากเกาะซาโดะมายังเมืองคามาคูระ และในเดือนพฤษภาคมได้ย้ายไปพำนักที่เขามิโนบุ ท่านได้ทุ่มเทฝึกอบรมลูกศิษย์ผู้สืบทอดการเผยแผ่ธรรมไพศาลในอนาคต และได้เขียนจดหมายหลายฉบับเพื่อส่งเสริมกำลังใจลูกศิษย์ฆราวาสทั่วประเทศ เพื่อให้เหล่าลูกศิษย์มีความศรัทธาที่เข้มแข็ง มีชัยชนะในการดำเนินชีวิตและบรรลุพุทธภาวะ
พระนิชิเร็นไดโชนินดับขันธ์เมื่อวันที่ 13 ตุลาคม ค.ศ. 1282 ขณะอายุ 61 ปี เป็นการปิดฉากอันสูงส่งในฐานะผู้ปฏิบัติสัทธรรมปุณฑริกสูตร