จะได้รับผลบุญจากการสวดมนต์ไหม ถ้าไม่เข้าใจความหมายของคัมภีร์ที่สวด?
เรื่องนี้จะขอยกเรื่องอื่น ๆ ในชีวิตประจำวันมาเปรียบเทียบให้เข้าใจ เช่น เราเปิดเครื่องรับโทรทัศน์ ถึงแม้ว่าจะไม่เข้าใจกลไกของเครื่อง แต่ถ้าเปิดไปตรงช่อง ภาพก็จะปรากฏออกมา พร้อมเสียงบนจอเครื่องรับโทรทัศน์ ถ้าเปรียบภาพที่เห็นในโทรทัศน์กับการสวดมนต์ประจำวันแล้ว ก็พอจะเข้าใจได้ว่า จะได้รับผลบุญหรือภาพในโทรทัศน์ได้ชัดเท่า ๆ กันกับผู้ที่เข้าใจความหมายของคัมภีร์ หรือเข้าใจกลไกของเครื่องรับโทรทัศน์
ถึงแม้จะเข้าใจกลไกของเครื่องรับโทรทัศน์ แต่ถ้าไม่เปิดเครื่องรับโทรทัศน์ ภาพก็จะไม่ปรากฏออกมา เช่นเดียวกันแม้จะเข้าใจความหมายของคัมภีร์ แต่ถ้าไม่สวดมนต์เช้า – เย็น ก็ย่อมไม่ได้รับผลบุญแน่นอน
อย่างไรก็ดี ผู้ศรัทธาจึงควรพยายามมาเรียนรู้เข้าใจความหมายของคัมภีร์ เพราะเมื่อเข้าใจความหมายของคัมภีร์แล้ว ความศรัทธาก็จะกว้างขวางและเข้มแข็งยิ่งขึ้น
▲ กลับไปข้างบน
ผู้ศรัทธาใหม่ที่ยังไม่มีโงะฮนซน ควรปฏิบัติอย่างไร?
ถ้ายังไม่ได้รับโงะฮนซนมาบูชาที่บ้าน ก็ควรปฏิบัติเวลาสวดมนต์ดังนี้
ควรหันหน้าไปทางทิศตะวันออกเวลาสวดมนต์ ถ้าอยู่ระหว่างเดินทาง และไม่สามารถไปสวดมนต์ที่อาคารสมาคมหรือบ้านสมาชิกในท้องถิ่นนั้น ๆ ได้ ก็หันหน้าไปทางทิศตะวันออกเช่นกัน
ถ้าไม่รู้ทิศทางในสถานที่ซึ่งอยู่ในขณะนั้น ในกรณีเช่นนี้ก็ให้หันหน้าไปสู่ทิศทางที่คิดว่าเป็นทิศตะวันออกก็สามารถทำได้
▲ กลับไปข้างบน
การสร้างความเจริญก้าวหน้าให้แก่ชีวิตของเรานั้น ต้องใช้ความมานะพยายาม ฉะนั้นโงะฮนซนนั้นจำเป็นอย่างไรหรือ?
ข้อนี้ขอตอบโดยอุปมาว่า การพยายามสร้างความเจริญแก่ชีวิตด้วยความมานะพยายามอย่างเดียวนั้น อุปมาเหมือนเดินทางโดยไม่มีแผนที่บอกทิศทางและตำแหน่งเป้าหมายที่จะไป
การศรัทธาต่อโงะฮนซน ทำให้เกิดปัญญา เกิดความเมตตากรุณาต่อเพื่อนมนุษย์ และเกิดกุศลผลบุญ ฉะนั้นอุปมาเหมือนเดินทางด้วยความกระปรี้กระเปร่าและด้วยความมั่นใจไปในเส้นทางซึ่งจะพาพวกเราไปสู่จุดหมายคือความสุข
▲ กลับไปข้างบน
ทำไมเราจึงต้องศึกษาธรรมจากธรรมนิพนธ์(โงะโช) ของพระนิชิเร็นไดโชนิน?
ความศรัทธาที่ถูกต้องนั้น สิ่งสำคัญก็เพื่อให้การปฏิบัติศรัทธาต่อโงะฮนซนนั้นเกิดกุศลผลบุญเต็มที่ ความศรัทธาที่ถูกต้องไม่เหมือนกับความศรัทธาแบบงมงาย การที่จะมีความศรัทธาที่ถูกต้องในโงะฮนซนนั้น จึงจำเป็นต้องศึกษาธรรมนิพนธ์ของพระนิชิเร็นไดโชนิน นี่เป็นเหตุผลประการหนึ่ง
อีกประการหนึ่งคือ ในการเผยแผ่ธรรมไพศาลทั่วโลกเพื่อประโยชน์สุขของปวงชนตามเจตนารมณ์ของพระพุทธนั้น เราก็ต้องศึกษาปรัชญาธรรมความรู้ในเรื่องของชีวิต เพื่อนำไปใช้ในการเผยแผ่ธรรม เพราะเหตุว่าถ้าเราไม่เข้าใจปรัชญาธรรมแห่งชีวิตแล้ว เราจะอธิบายให้ผู้คนเข้าใจได้อย่างไร ฉะนั้นเราจึงต้องศึกษาธรรมนิพนธ์ของพระนิชิเร็นไดโชนิน
การปฏิบัติศรัทธานั้นจำเป็นต้องพร้อมด้วย ศรัทธา ปฏิบัติ ศึกษา 3 ประการ ถ้าหากขาดหรือไม่เข้าใจข้อหนึ่งข้อใดใน 3 ประการนี้แล้ว การเผยแผ่ธรรมไพศาลก็ไม่สามารถทำได้
▲ กลับไปข้างบน
ถ้าข้าพเจ้ายิ่งปฏิบัติเข้มแข็งขึ้น อุปสรรคก็ยิ่งร้ายแรงขึ้นดังนี้แล้ว ข้าพเจ้าควรจะหยุดสวดมนต์เสียก่อนที่อุปสรรคจะร้ายเกินไปได้ไหม?
การคิดในทำนองนั้นไม่ถูกต้อง เพราะว่าถึงแม้คุณจะหยุดสวดมนต์คุณก็ยังคงต้องพบกับปัญหาอุปสรรค เพราะปัญหาและอุปสรรคเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตเรา ทางที่ถูกคือคุณต้องเรียนรู้กฎของจังหวะชีวิต และใช้หลักพุทธธรรมในการแก้ไขเอาชนะปัญหาต่าง ๆ
คุณค่าที่แท้จริงของการปฏิบัติคำสอนที่ถูกต้อง ก็คือการนำพลังชีวิตอันไร้ขอบเขตจำกัด ซึ่งมีซ่อนเร้นอยู่ในชีวิตของเราให้ปรากฏออกมาใช้ การสวดมนต์ต่อโงะฮนซนและปฏิบัติกิจกรรมการเผยแผ่ธรรม และชักชวนแนะนำธรรมแก่ผู้อื่น ทั้ง 2 ประการนี้ จะดลบันดาลให้เราสามารถใช้พลังชีวิตอันยิ่งใหญ่นี้ เอาชนะมารและอุปสรรค และทำให้เรามีความเข้มแข็งที่จะสามารถต่อสู้กับความสกปรกและความชั่วร้ายในสังคมปัจจุบันนี้ได้
▲ กลับไปข้างบน
การปฏิวัติมนุษย์แตกต่างจากกระบวนการของการเจริญเติบโตและการพัฒนาตามปกติอย่างไร?
การปฏิวัติมนุษย์ หมายถึง “การเปลี่ยนจากหน้ามือเป็นหลังมือ” หมายถึงการเปลี่ยนแปลงสิ่งที่รวดเร็วและน่าเร้าใจ การเปลี่ยนแปลงแบบค่อยเป็นค่อยไปตามจำนวนปีที่เราเจริญเติบโตและเป็นผู้ใหญ่ขึ้นนั้น เป็นส่วนหนึ่งของกระบวนการชีวิตตามธรรมชาติ แต่การปฏิวัติมนุษย์เกิดขึ้นเมื่อเราทำให้จังหวะของการเจริญเติบโตตามปกติเปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็วเพื่อสิ่งที่ดีกว่า กระบวนการปฏิวัติมนุษย์นั้นจะมีความมั่นคง มีการปรับปรุงที่เห็นได้ชัดเจน แและช่วยให้เราดำรงไว้ซึ่งการเจริญเติบโต และการพัฒนาไปจนตลอดชั่วชีวิตและตลอดชั่วนิรันดร์ได้ เราจะไม่พบขีดจำกัดหรือทางตันในการเดินทางเพื่อสร้างความสมบูรณ์แบบของตัวเองเป็นอันขาด และความศรัทธาก็คือเครื่องยนต์ที่จะเป็นแหล่งกำเนิดของพลัง เพื่อการปฏิวัติมนุษย์ของเรานั่นเอง
คำถามที่พบบ่อยทั้งหมด
▲ กลับไปข้างบน